วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

บทที่ 2 นาฬิกา สีเลือด

 วันอังคาร ที่ 5 มีนาคม พุธศักราช 2545 เหตุการ: หลังจากการรู้ความจริง ของนักเรียน ห้อง2/1 การโรงแรม
   
   เสียงนกร้องยามเช้า เสียงนาฟิกาปลุกดังเตือน เด็กหนุ่ม ผู้ที่เต็มไปด้วย ความเบื่อหน่าย ผู้ที่เก็บกด ความ ทุกข์ ทรมานในจิตใจ มาร์ค ซักเกอร์เบิก นักเรียนชาย ที่เรียนไม่เก่ง ซื่อ จน บื้อ  แต่หน้าตาดี สาวๆที่แอบชอบ ก็มีอยู่บ้าง นิสัยดี ติดการ์ตูน ติดเกมส์ เมื่อช่วงวัยเด็ก ได้รับการฝึก ดาบ จาก คุณปู่ แต่เมื่อปู่ตายไป การฝึกจึงถูกชงักลง  แต่ ดาบของปู่ กลับตกเป็นของ มาร์ค
 " มาร์ค ตื่นได้แล้ว "
 เสียง ที่ฟังแล้ว นุ่มนวล นี้ คือใครกัน มาร์ค ค่อยๆลืมตาขึ้น 
 " อ้าว?  พี่ ครับ เช้าแล้วเหรอ?"
 มาร์ค ที่รู้สึกว่า มีบางกดทับ ร่างกายอยู่นั้น ก็ตกใจ ตื่นอย่างรวดเร็ว  
 " พี่ครับ  !!?"
 พี่สาวของมาร์ค ยูริ ซักเกอร์เบิก นั่งทับ มาร์คอยู่ เธอ ค่อยๆเอามือลูบไปบริเวณ ต้นขาของเค้า มาร์ค ตอนนั้น นอนเกร็ง และพยายาม รวบรวมสติ ที่จะห้าม พี่ แต่ เธอก็ค่อยๆ ก้มลง ข้าง  หู มาร์ค และกระซิบเบาๆ 
 "  สีหน้า นายตอนนี้ ทำให้พี่ แฉะ ไปหมดแล้วน้ะ "
 " พี่ครับ ผะ…ผมพร้อมแล้วครับ"
 ทันใดนั้นพี่สาว ก็หัวเราะขึ้น ด้วยความตลก 
 " ฉันล้อนายเล่นแค่นี้ถึงกับคิดเอาจริงเลยเหรอ ไอ้น้องหื่นเอ้ย ฮ่ะๆ"
 มาร์ค ก็ถอนหายใจออก ด้วยความหายอึดอัด และหงุดหงิดที่พี่สาว แกล้ง มาร์ค เหลือบไปมอง นาฬิกาบนหัวเตียง 
 "  หา!! สายป่านนี้แล้วเหรอเนี่ย ทำไมพี่ไม่ปลุกผมล่ะครับ ? "
 " ฉันปลุกนายจนนับครั้งไม่ได้แล้วล่ะ "
มาร์ครีบลุกขึ้นแล้ว วิ่งไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและมุ่งออกไปโรงเรียนโดยไม่กินข้าว ระหว่างที่วิ่งอยู่นั้น ก็นึกขึ้นได้ ว่า "หากเราไปโรงเรียนตอนนี้  ก็ไม่ได้มีอะไรดีขึ้น และเราไม่รู้ด้วยว่าตอนนี้เริ่มมีการสังหารใครไปแล้วบ้าง " หากมาร์คยังคิดที่จะเดินหน้ามุ่งตรง ไปยังโรงเรียนต่อ  ความหายนะ อาจจะมาเยือนก็เป็นได้  แต่หากเค้า หยุดอยู่ที่ทางถนน ที่ห่างจากโรงเรียนไปอีกแค่ 1 กิโลเมตรครึ่ง และเดินกลับมุ่งหน้าไปที่ ริมแม่น้ำที่ไหลผ่านตัดตัวเมือง และน่ังชมทิวทัศของตัวเมืองอันวุ่นวาย มาร์ค ก็อาจจะรอดจากหายนะก็เป็นไปได้  แต่หากมองกลับไปตามทางที่ตนวิ่งมา  สิ่งที่เห็นเพียงอย่างเดียวคือ ความเป็นห่วง พี่ พ่อ แม่  ใครจะอยากให้ผู้ที่เรารู้จักตั้งแต่เกิดมาเสี่ยงชีวิต เข้าไปอยู่ในสงครามครั้งนี้กันล่ะ มาร์คจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อ โดยไม่รังเรใจว่า หนทางข้างหน้านั้น โรงเรียนแห่งนั้น เพื่อนๆเหล่านั้น คือ หายนะ ชั้นดีเลยดีเดียว
   มาร์คที่ค่อยเดินเข้ารั้วโรงเรียน เดินไปอย่างช้าๆ เดินโยไร้จุดหมาย และมุ่งสู่ห้องเรียนของตน ที่เป็นดั่งรานประหาน อันเต็มไปด้วย เหล่า ฆาตกร ที่ยังไม่เผยธาตุแท้ของตนออกมาแต่การที่กล่าวหาคนอื่นโดยไม่มองตนนั้นเป็นไปไม่ได้ " ตัวเราอาจเป็น ฆาตกรก็ได้ "  มาร์คที่คิดเรื่องนั้นได้จับที่กระเป๋าของตน ในกระเป๋าใบนี้ มีสิ่งที่จะเป็นตัวตัดสินชีวิต ของนักเรียนคนใดคนนึงในห้องนี้ เมื่อเปิดประตูห้องเรียนเข้าไป สิ่งที่เห็นคือ หัวหน้าห้อง กับ คุโระ ที่ยืนคุยกันอยู่แต่เมื่อมาร์คเปิดประตูมา ทั้งสองก็หันชำเลืองมอง ในห้องมีกันแค่สามคน แต่เมื่อ มาร์ค เข้ามานั่งได้ไม่นาน คุโระก็เดินออกจากห้องไป อย่างเย็น ชา แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจากนั้น หัวหน้าห้องก็เดินมาที่โต็ะของ มาร์ค
 " มาร์ค เรา ของจับมือนายหน่อยได้ไหม "
 มาร์คที่กำลังงงว่าทำไม จู่ๆ หัวหน้าจึงของจับมือแต่มาร์คก็ไม่ได้สงสัยอะไรและยื่นมือไป
 " ปึง "
เสียงเปิดประตูอย่างแรงของ มาณี ที่ทำให้มาร์คชักมือกลับด้วยความตกใจ มือทั้งสองยังไม่ได้สัมผัสกันแม้แต่นิดเดียว มาณีเดินเข้ามาในห้องและมองหัวหน้าห้องด้วยสายตาแห่งความเกลียดชังและยิ้มให้แก่มาร์ค เธอเดินไปนั่งได้ซักพักหัวหน้าก็พูดขึ้น
 " แย่หน่อยน้ะ เดี๋ยวคนในห้องนี้ก็จะอยู่ในจำนวนที่เหลือไม่มากแล้ว ฉนั้นเราควรจับกลุ่มกันไว้น้ะ "
เธอยิ้มที่มุมปาก มาร์คก็ยิ้มตอบ
 วันนี้ทุกคนที่อยู่ในห้อง มีกันแค่ สามคน โดยปราศจากการพูดคุย มาร์คได้มองไปนอกหน้าต่าง เค้าเห็นบางสิ่ง มันตัวขาว ตาโต รูปร่างคล้ายมนุษย์ ในตาแดงกล่ำ ลำตัวผอมซีด มันจ้องมาทางมาร์ค
 ตอนนั้นมาร์คที่ช็อกกับสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่างนั่น ดันไปสบตากับมัน มันค่อยๆแสยะยิ้ม และมองมาทางมาร์ค อย่างกับมันพร้อมที่จะกระโจนเข้าฆ่าเค้า สิ่งนั้นจ้องมาร์คอยู่นาน โดยอาจารย์ที่เข้ามาสอนนั้น กลับไม่เห็นสิ่งที่อยู่นอกหน้าต่าง เมื่อเสียงออดพักกลางวันดังขึ้น มาร์ครีบหยิบกระเป๋าและวิ่งออกจาห้องไปอย่างรวดเร็ว " สิ่งนั้นมันอะไรกัน บ้าจริงเลย!! มันคืออะไรกันเนี่ย " มาร์คคิดขณะที่วิ่ง ทางที่เค้ามุ่งออกไปมันคือ ทางออกของอาคารเรียน เค้าไม่สนใจแม้แต่ครูฝ่ายปกตรองที่ ห้ามเค้า
  มาร์ควิ่งไปเลื่อยๆ  และไม่หันกลับมามองโรงเรียน ในนั้น แม้แต่อาจารย์ก็ช่วยไม่ได้ ภารโรง ก็ช่วยไม่ได้ ไม่มีใคร ในโรงเรียน ช่วยตัวเราได้ นอกจากตัวเรา สิ่งที่คิดขึ้นมาในหัว ณ ตอนนั้น คือ การเตรียมหาที่ตั้งรับ เพราะ สิ่งที่มาร์คกำลังหนี  มันตามตัวเค้ามา มันวิ่ง ราวกับผู้ที่กระหายเนื้อ ราวกับสุนัขป่าไล่จับ กระต่าย ที่ไม่มีทางสู้ มันวิ่งเร็วมาก จวนจะจับตัว เค้าได้ จู่ๆหัวใจก็เต้นช้าลง ทุกสิ่งรอบๆกลับ เคลื่อนที่ช้าขึ้น มาร์คที่ไม่อาจที่จะ อยากสนใจในสิ่งที่เกิดอีกต่อไป ได้วิ่งต่อไป โดยวิ่งไปทางสนามเด็กเล่น เมื่อมาถึง มาร์ค ล้มทั้งยืนที่สนามเด็กเล่น หัวใจราวกับจะหยุดเต้น การวิ่งระยะ 50 เมตร โดยทำให้หัวตนเต้นช้าลงนั้น มันไม่ใช่เรื่องดีแน่ หากทำสิ่งนั้นซ้ำอีกรอบ จะเกิดอาการหัวใจล้มเหลว ทันที ฉนั้น จึงไม่สามรถที่จะ ชะลอเวลาได้อีก เป็นครั้งที่สอง ในระยะเวลาต่อเนื่อง มาร์คที่นอนจมอยู่กับที่ ขยับแค่ปลายนิ้วแทบจะเป็นไปไม่ได้  เจ้าปีศาจ นั่นมันค่อยๆเดินเข้ามา และมันได้อ้าปากของมันอย่างกว้างเพื่อที่จะกิน มาร์ค เข้าไปทั้งตัว
 " หยุดก่อน "
เสียงคำสั่งของเด็กสาว น้ำเสียงออกจะแข็งกล้าวไปนิด แต่แฝงไปด้วยความเป็นห่วง เซอเรีย ไซร่า เธอคือเพื่อนสมัยเด็กของมาร์ค เธออยู่ห้องเดียวกับมาร์คแต่มาร์คกลับไม่สนใจเธอ และเลือก อนิเมะ และ เกมส์ มากกว่าผู้หญิงเสียอีก เธอค่อยๆเดินมาที่มาร์คและมอบนาฬิกา ที่มาร์ค เห็นแล้วถึงกับ แทบบ้า นาฬิกา เรือนนี้ มันเป็น ของขวัญ ที่มาร์คมอบให้พี่สาว ในวันเกิดเมื่อสามวันที่แล้ว มาร์คที่เจ็บแค้นในใจแต่กลับทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว  นาฬิกาที่มีคาบเลือดของพี่ติดอยู่ มันหมายความว่าไงกัน?
   
    ในชีวิตเรามีทางเลือกอยู่เสมอ เว้นแต่เราจะเลือกแบบไหน หากมาร์คไม่ไปที่โรงเรียน เค้าคงตายไปแล้ว แต่ใครกันที่ลงมือสังหารผู้ที่ไม่เกี่ยงข้อง แล้วทำไม อาจารย์ ถึงไม่ทำอะไรเลย ไหนบอกว่าหากลากผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้ามายุ่ง คนนั้นยะถูกสารไม่ใช่เหรอ หรือมันมีอะไรมากกว่านั้น 
 มาร์คค่อยๆลืมตาตื่นขึ้น ในที่ๆแปลกตา มันไม่ใช่บ้านเค้า มันไม่ใช่ที่ๆเรารู้จัก " ที่นี่มันบ้านใครกัน กรอบรูป? ผู้หญิงในรูปคนนั้นใครกัน หน้าตาคุ้นๆ เพื่อนของแม่เหรอ ? "
 ระหว่างที่มาร์คคิดและตั้งคำถามให้ตนเองอยู่นั้น เซอเรีย ก็เดินเข้ามา เธอสีหน้าเย็นชา และไม่ได้พูดอะไร
 " เธอฆ่าพี่ของฉันเหรอ เซอเรีย ทำไมถึงทำอย่างงั้นล่ะ. "
 " ฉันอยากบอกให้นายรู้เอาไว้น้ะ มาร์ค ฉันไม่ได้ฆ่าพี่สาวนาย ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ว่า นายควรถามตัวเองน้ะว่าก่อนออกจากบ้าน นายได้บอกลาพี่สาว หรือแตะต้องตัวเธอรึปล่าว แล้วนายไส่ลองดูตัวนายเลยเหรอ นายนั่นแหละที่…เปล่า… ฉันเป็นห่วงนายน้ะมาร์ค นายอย่าได้ทำร้ายใครอีกเลย "
 " ฉันไม่เข้าใจที่เธอพูดเลย เซอเรีย แล้วไอ้ตัวเมื่อตอนนั้น มันคืออะไร? "
 " มันคือปีศาจจากนรก war lock มันคอยเฝ้าปกป้องนาย แต่ตอนที่นายวิ่งหนี มันนึกว่านายเป็นศัตรู มันเลยจะฆ่านายน่ะ "
 เซอเรียพูดด้วยน้ำเสียงเหมือนกับมันเป็นเรื่องปกติ แต่การ ฆ่า มันไม่ใช่เรื่องปกติ มาร์คเกือบถูกเจ้าปีศาจนั่นกินเข้าไป โดยไม่สามารถต่อสู้ขัดขืนได้ 
 " แล้วพลังของเธอคือ เรียกปีศาจ สิน้ะ "
 " ถูกต้อง ส่วนพลังของนาย คือ การชะลอเวลาสิน้ะ "
 " ฉันก็ไม่แน่ใจหรอก ว่านั่นคือพลังของตัวฉัน "
เซอเรีย ผู้หญิงคนนี้คือลูกสาว ของ สส. ในจังหวัดนี้ ฉนั้นหากเธอทำอะไรไปก็แล้วแต่ ที่มันไม่ดี สิ่งนั้นจะถูกเก็บไปทันที แต่เธอก็เข็มแข็งพอที่จะยอมรับความผิดที่เธอกระทำลงไป เธอมีนิสัยค่อนข้างเยือกเย็น เพราะในครอบครับเธอ แม่คือคนที่เธอกลัวและไม่กล้าแม้แต่จะสบตา เธอถูกความกดดัน จากความอารมณ์ร้อนของแม่เป็นประจำ เธอไม่แม้แต่จะพูดกับแม่เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่พ่อของเธอกลับเป็นคนที่ใจดีและเยือกเย็น พ่อของเธอมีอุดมการอันแรงกล้าในการเป็น สส. ที่ขึ้นตรงต่อนโยบายของพรรค และเป็นพ่อที่ดี 
  " เอาล่ะ วันนี้นายพักที่นี่ก่อนล้ะกัน วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้าน นอกจาก คนใช้ มีอะไรก็เรียกคนใช้ล้ะกัน "
เมื่อเซอเรีย ปิดประตูและเดินจากไป  มาร์ค ที่ไม่อยากจะไว้ใจใคร ในตอนนี้ จึงพยายามที่จะลุกออกจากเตียง แต่ ปัญหาไม่ใช่การลุกขึ้นแต่อย่างใด แต่สิ่งที่ ล็อกขา กับแขน มันคือ มือของปีศาจที่จับมือ และขาของเค้าไว้ อย่างแน่น  ยิ่งเค้าพยายามขยับมากเท่าไหร่ มันยิ่งบีบ จนเจ็บมากเท่านั้น มาร์ค ที่เริ่มละความพยายาม จึงนอนลงบนเตียงและนึก พยายามนึกถึงเหตุการณ์
เมื่อ เค้าหลับตาลง ความรู้สึกเจ็บตรงอกก็เริ่มขึ้น และมีหลายๆอย่างที่ทำให้เค้ารู้สึกแย่ ความรู้สึกผิด ความรู้สึกเศร้า มันผสมปนเปไปหมด มาร์คเริ่มสับสนกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ มาร์คเห็นภาพพี่สาว   เธอ ยืนอยู่อีกฝั่งนึงของแม่น้ำ แม่น้ำที่ไม่ไหลเป็นสายยาวไปจนสุดขอบฟ้า เธอยืนยิ้มให้เค้า ดละพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่มันไกลมาก เค้าแทบจะไม่ได้ยินสิ่งที่เธอพูด เมื่อเธอพูดจบ ความมืดก็ค่อยๆกลืนกินตัวมาร์คลงไปในเหวลึกที่หาก้นหลุมไม่ได้
       เวลา 22:53 วันที่ 5 มีนาคม 
  บันทึก ของ เซอเรีย ไซร่า
  วันนี้เป็นวันที่ความจริงแล้ว ฉันต้องไปโรงเรียน แต่ว่า ทำไมก็ไม่รู้ ฉันรู้สึกถึงอะไรบอย่าง ที่น่าสยดสยอง มันคืออะไรกัน ความรู้สึกที่แผ่ออกมาจากตัวของเค้า เหมือนกับ ตัวฉัน กำลังช่วยเหลือ ฆาตกร ที่พึ่งฆ่าคนมา แล้วทำเป็นตัวเอง ไม่รู้สึกอะไรเลย ฉันอยากจะเกลียดเค้า แต่ทำไมกัน ฉันเกลียดเค้าไม่ลงเลย มีหนำซ้ำ ฉันกลับรู้สึกสงสารเค้า ที่เริ่มมีอาการทางจิตอย่างงั้น ขอจบบันทึกลงแต่เพียงเท่านี้
 เมื่อเซอเรีย อ่านบันทึกของตนจบ เธอก็ลุกขึ้นจากเตียงที่เธอนอนอ่าน ไดอารี่ เธอเดินไปที่ประตูห้อง และเปิดแง้มดู บริเวณทางเดินหน้าห้องของเธอ เธอมองไปสุดทางเดิน  ตรงนั้นคือห้องที่เธอพามาร์คไปพักไว้ ในบ้านนั้นเงียบมาก แต่พอเซอเรียเดินออกไป และเดินเข้าไปไกล้ห้องที่ มาร์คพักอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียง เสียงที่ทำให้เธอรู้สึกสยอง มันเป็นเสียงพูด ของผู้ที่เธอเคยชอบ เสียงนั้น มันพูดเกี่ยวกับการฆ่าคน และพูดถึงความรู้สึกที่เวลาถูกมีดบาดมันทำให้ตัวเค้ารู้สึกดี " มาร์ค " ความจริงของ คนๆนี้มันคืออะไรกัน เสียงฝีเท้าภายในห้องของมาร์ค มุ่งตรงมาทางเธอ มาร์คพังประตูออกมา พร้อมกับดาบ ของปู่ มาร์ค ฟันลงไปใส่ เซอเรีย แต่ ปีศาจ ก็โผล่มาจากทุกที่ในบ้าน ปีศาจเหล่านี้ พยายามปกป้องเซอเรีย มาร์ค ที่ตอนนี้กลายเป็นผู้เสียสติไป
ได้ฟาดฟันเหล่าปีศาจอย่างรวดร็ว ราวกับว่า มันเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ฆ่าปีศาจเหล่านี้  เซอเรียวิ่งออกมานอกบ้าน เพื่อที่จะหนี คนที่พยายามจะฆ่าเธอ ปีศาจทุกตัวกรูกันเข้าไป เพื่อพยายามฆ่า มาร์ค แต่ความเร็วอันไม่น่าเชื่อนั้น ทำให้ปีศาจที่เยอะแค่ไหนก็ พ่ายแพ้ มาร์คที่ฟาดฟัน ปีศาจ กลับสะดุดซากปีศาจ และล้มลง จึงเสียท่าให้กับปีศาจและถูกมันลุม เซอเรีย ที่วิ่งไปตามถนน และไม่หันกลับมามองที่บ้านของเธอ แม้จะได้ยินเสียง ของมาร์ค ที่ร้องด้วยความแค้น
    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น